บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

คำสันธาน

คำสันธาน คือ คำที่ทำหน้าที่เชื่อมคำกับคำ ประโยคกับประโยค ข้อความกับข้อความ เพื่อแสดงความคล้อยตาม ความขัดแย้งเหตุผล หรือเชื่อมความให้สละสลวย

หน้าที่ของคำสันธาน

1.  เชื่อมคำกับคำ
  • ผักกาดและหัวหอมเป็นพืชสวนครัว
  • เธอชอบสีแดงหรือสีส้ม 

2.  เชื่อมข้อความกับข้อความ
  • การส่งเสียงดังในห้องสมุดเป็นการกระทำที่ไม่ดีรบกวนผู้อื่น เพราะฉะนั้น จึงต้องมีกฎห้ามส่งเสียงดังติดประกาศไว้
  • คนเราต้องการอาหาร เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ด้วยเหตุนี้ เราจึงจำเป็นต้องประกอบอาชีพเพื่อให้ได้เงินมาซื้อสิ่งจำเป็นเหล่านี้ 

3.  เชื่อมประโยคกับประโยค
  • พี่เป็นคนขยันแต่น้องเกียจคร้านมาก
  • เราหวงแหนแผ่นดินไทยอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรา 

4.  เชื่อมความให้สละสลวย
  • คนเราก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้างเป็นธรรมดา
  • ฉันก็เป็นคนจริงคนหนึ่งเหมือนกัน 

ชนิดของคำสันธาน

1. เชื่อมใจความที่คล้อยตามกัน ได้แก่คำว่า กับ , และ , ทั้ง…และ ,ทั้ง…ก็ , ครั้น…จึง , พอ…ก็ ฯลฯ
  • ภราดร และ แทมมี่เป็นนักกีฬาที่มีความสามารถ
  • พอ พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าฝูงนก ก็ บินกลับรัง
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้ง ผู้กำกับ และ นักแสดงได้รับค่าตอบแทนสูง 

2.  เชื่อมใจความที่เป็นเหตุเป็นผลกัน ได้แก่คำว่า จึง , ครั้น…จึง , พอ…ก็ ฯลฯ
  • พอเขากล่าวปาฐกถา ทุกคน ก็ ตั้งใจฟัง
  • ป่าไม้หมดไปโลก จึง เกิดความแห้งแล้ง
  • เขาพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง เนื่องจาก ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ 

3.  เชื่อมใจความที่ขัดแย้งกัน ได้แก่คำว่า แต่ , ถึง…ก็ , กว่า…ก็ , แต่ทว่า , แม้…ก็ ฯลฯ
  • สังคมมุ่งพัฒนาด้านวัตถุ แต่ ด้านจิตใจขาดการสนใจ
  • ถึง ฉันจะลำบาก ฉัน ก็ ไม่ยอมทำชั่วเป็นอันขาด
  • แม้ เขาจะมีร่างกายไม่แข็งแรง เขา ก็ มีจิตใจแข็งแกร่ง 

4.  เชื่อมใจความที่ให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่คำว่า หรือ, หรือไม่ก็, ไม่เช่นนั้น, มิฉะนั้นก็, ไม่…ก็ ฯลฯ
  • โรงเรียนในเมือง หรือ ในชนบทต้องการอาจารย์ผู้มีความรู้
  • ง่วงก็นอนเสีย หรือไม่ก็ ลุกขึ้นไปล้างหน้า
  • ไม่ วันเสาร์ ก็ วันอาทิตย์เจนจะมาบ้านเรา 

ข้อสังเกต
1.  คำสันธานบางคำใช้เข้าคู่กัน เช่น ไม่…ก็ , กว่า…ก็ , เพราะ…จึง , ถึง…ก็ , แม้…ก็ เป็นต้น

2.  สันธานอาจอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ในประโยคก็ได้ เช่น
  • อยู่ระหว่างคำ : อีฟชอบสีม่วง และ สีขาว
  • อยู่หลังคำ : คน ก็ ดี สัตว์ ก็ ดี รักชีวิตด้วยกันทั้งนั้น
  • อยู่คร่อมคำ : ถึง เป็นเพื่อน ก็ อย่าวางใจ
  • อยู่ระหว่างประโยค : ตูนจะดื่มน้ำส้ม หรือ ดื่มนม
  • อยู่หลังประโยค : เราจะทำบุญ ก็ ตาม บาป ก็ ตาม ควรคิดถึงผลกรรม
  • อยู่คร่อมประโยค : แม้ เต้จะกินมากแต่เต้ ก็ ไม่อ้วน 

3.  ประโยคที่มีคำสันธานนั้น จะแยกออกเป็นประโยคย่อยได้ตั้งแต่ 2 ประโยคขึ้นไป

4.  คำบางคำเป็นได้ทั้งคำสันธานและคำบุพบท
ตัวอย่าง
คำว่า “เมื่อ” ให้พิจารณาว่า ถ้าสามารถแยกเป็น 2 ประโยคได้ก็เป็นคำสันธาน เช่น
  • เมื่อ เราได้ยินเสียงระฆัง หมวยได้ออกจากโรงเรียนไปแล้ว” (เป็นคำสันธาน)
  •  เมื่อ 16 นาฬิกา อาร์ทได้ออกจากโรงเรียนไปแล้ว” (เป็นคำบุพบท) 

5.  คำว่า “ให้” เมื่อนำมาใช้เชื่อมประโยคก็จัดเป็นคำสันธาน เช่น “เขาทำท่าตลก ให้ เด็กหยุดร้องไห้” เป็นต้น

6.  คำว่า “ว่า” เมื่อนำมาใช้เชื่อมระหว่างประโยคก็จัดเป็นคำสันธาน เช่น “หนังสือพิมพ์ลงข่าว ว่า มีการกวาดล้างพวกมิจฉาชีพครั้งใหญ่” เป็นต้น

7.  คำประพันธสรรพนามหรือคำสรรพนามเชื่อมประโยค คือ คำว่า “ผู้ ที่ ซึ่ง อัน” จัดเป็นคำสันธานด้วย
  • สตรี ผู้ มีความงามย่อมเป็นที่สนใจของคนทั่วไป
  • คน ที่ กำลังเล่นกีตาร์นั่นเป็นพี่ชายของวี
  • ฝ้ายอยู่ในตลาด ซึ่ง มีคนพลุกพล่าน 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น